Compromising speech

“ดังนั้น เป็นอันรู้กันว่าเราสามารถที่จะเดินและเคี้ยวหมากฝรั่งไปพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน”
.
คำพูดข้างต้นถูกกล่าวขึ้นโดย Ned Price บุคคลที่ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวแสดงหลักของการเมืองสหรัฐอเมริกา ในฐานะโฆษกกระทรวงต่างประเทศ โดยเขามีหน้าที่เป็นตัวกลางในการตอบคำถามถึงแนวทางการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ต่อสาธารณะ ซึ่งคำพูดข้างต้นเป็นหนี่งในการแสดงวิสัยทัศน์ของ Price ในระหว่างการแถลงข่าวกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2021
.
ระหว่างการแถลงการณ์ Price ได้กล่าวถึงทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วมุมโลก อาทิ สงครามการเมืองซีเรีย สถานการณ์รัฐประหารพม่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หรือ แผนปฏิบัติการฉบับครอบคลุม (JCPOA) เป็นต้น โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก คือ ทิศทางการดำเนินการในส่วนของความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และจีน เนื่องจากเป็นประเด็นที่ผู้คนรอบโลกจับตามองภายหลังการเปลี่ยนผ่านประธานาธิบดีจากสมัยของ Donald Trump ที่มีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนอย่างชัดเจน อันเห็นได้ชัดจากกรณี “US-China Trade War” ที่ส่งผลอย่างมากต่อการค้าในเวทีโลกในสมัยที่ผ่านมา
.
สิ่งที่ควรจับตามองใน speech ของ Price คือ การแบ่งให้เห็นถึงประเด็นปัญหาที่สามารถประณีประณอม และประเด็นที่ถือว่าเป็นปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ โดยในตอนแรก Price ได้ประณามและชี้ถึงประเด็นทางด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีน ในกรณีของชาวอุยกูร์ การออกมาตรการที่ส่งผลต่อแรงงานอเมริกา รวมทั้งความแข็งกร้าวของจีนต่อพันธมิตรของสหรัฐฯ รอบเวทีโลก
.
อย่างไรก็ตาม compromising speech ดังกล่าวได้แฝงการประณีประณอมในบางส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน (Sino-US) อันเห็นได้จากการที่ Price ได้พูดถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (climate change) โดยจีนมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในฐานะการเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2020 ซึ่งคิดเป็น 28% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในโลก จึงทำให้สหรัฐฯ ต้องอาศัยความร่วมมือกับจีนในการแก้ไขประเด็นทางสิ่งแวดล้อมข้างต้น
.
ทั้งนี้ การแสดงออกของสหรัฐฯ ต่อประเทศมหาอำนาจในเอเชียอย่างจีนจึงเปรียบเสมือนการ “เคี้ยวหมากฝรั่งและเดิน” (walk and chew gum) ไปพร้อมๆ กัน กล่าวคือ การทำสองอย่างควบคู่กันไป โดยในกรณีนี้ สหรัฐฯ จำเป็นต้องคงไว้ซึ่งความร่วมมือกับทางจีนในประเด็นที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับตัวแสดงรายใหญ่ในโลก แต่ในขณะเดียวกันทางสหรัฐฯเองก็จะคงดำเนินตามพันธกิจในการพัฒนาขีดความสามารถของตนเพื่อแข่งขันกับจีนอย่างรอบด้าน และคอยทำหน้าที่ในการออกมาวิพากษ์การกระทำที่ขัดต่อความชอบธรรมในเวทีนานาชาติต่อไป
เรียบเรียงโดย พันไมล์ โรจนวิภาต
#RaiseYourWordsNotYourVoice
ที่มา:
https://www.washingtonexaminer.com/…/state-department-flout…
https://edition.cnn.com/…/us-china-relations-int…/index.html
https://www.cpr.org/…/bennet-senate-will-walk-and-chew-gum…/
https://www.lowyinstitute.org/…/china-world-s-biggest-pollu…